Micro Credit by True Money Wallet สินเชื่อเงินด่วน ทันใจ

เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาทางบริษัท True Move H ได้ออกบริการใหม่ล่าสุดออกมาที่เรียกว่า “Micro Credit” โดยมีแนวคิดที่เป็น “บริการยืมก่อนคืนทีหลัง” ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการ True Move H เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ผ่านมา เป็นผลให้เกิดการขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทางทรูฯ จึงใจดีให้ยืมเงินได้ก่อนสูงสุดถึง 10,000 บาท แล้วค่อยผ่อนจ่ายชำระได้นานสุด 3 เดือน

Micro Credit คืออะไร ?

คำว่า Micro Credit เป็นคำที่ใช้เรียกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของทรูฯ ที่ออกแบบมาเป็นบริการให้กู้ยืม “วงเงินก้อนเล็ก ๆ” สำหรับผู้ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินในช่วงเวลาฉุกเฉินจริง ๆ และต้องการเงินจำนวนนี้ไว้ซัพพอร์ตรายจ่ายประจำวันในระยะเวลาหนึ่ง

โดยที่ก่อนหน้านี้หากใครใช้บริการกู้ยืมเงินด่วนที่เรียกว่า “ฮีโร่แคช” จากทางทรูฯ อยู่แล้ว ถ้าตอนนี้ไม่เห็นฟีเจอร์ดังกล่าวก็ไม่ต้องตกใจไปเพราะตัว Micro Credit นี่แหละที่เป็นบริการใหม่เข้ามาแทนที่ฮีโร่แคชตัวเก่านั่นเอง

สินเชื่อทรูมันนี่ “Micro Credit” มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ภาพประกอบจาก privilege.trueid.net

อย่างที่ได้เกริ่นไปในข้างต้นว่าสินเชื่อทรูมันนี่ตัวใหม่ที่เรียกว่า Micro Credit จะให้วงเงินสูงสุด 10,000 บาท แต่อย่างไรก็ตามการจัดประเภทว่าใครได้วงเงินเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับประเภทของลูกค้าว่าเป็นลูกค้าทรูฯ ที่ใช้บริการมานานหลายปีแล้ว หรือเพิ่งจะมาเป็นลูกค้าทรูฯ ใหม่ ๆ และมียอดค่าใช้จ่ายที่ผ่านมา (ทั้งรายเดือน ทั้งแพ็คเกจ รวมถึงยอดค่าใช้จ่ายผ่านทรูวอลเล็ต) รวมแล้วเป็นเท่าไหร่

โดยที่ทางทรูฯ จะมีบัตร True You Card ทั้งหมด 5 สี ได้แก่สีขาว สีเขียว สีฟ้า สีแดง และสีดำ โดยที่คุณสามารถเช็ค True You Card ของคุณว่าเป็นสีไหนได้ที่แอปพลิเคชัน TrueID เมื่อเข้าไปแล้วให้สังเกตคำว่า True ด้านขวาบนของแอปฯ พอกดเข้ามาเราจะเห็นว่า True You Card ของเราเป็นสีอะไร

สิทธิ์ประโยชน์ของผู้ถือบัตร True Card แต่ละสี

ภาพประกอบจาก privilege.trueid.net

บัตร True White หรือ บัตรสีขาว

เป็นบัตรสำหรับลูกค้าใหม่ ๆ ที่เพิ่งเป็นลูกค้าได้ไม่ถึงหนึ่งปี และมียอดค่าใช้จ่ายไม่เกิน 250 บาทต่อเดือน

เงื่อนไขการขอรับสินเชื่อ
รับวงเงินสูงสุด      :  1 เท่าของค่าใช้จ่าย
สิทธิประโยชน์อื่น ๆ :  โทรฟรีในวันเกิด นาน 24 ชั่วโมง, ใช้ทรูพอยท์รับส่วนลดได้มากถึง 50%, ดูหนังถูกลงครึ่งราคาในเครือเมเจอร์ ส่วนลด King Power, True Coffee, Amazon และสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ที่ร่วมรายการ (สามารถตรวจสอบได้ที่แอปพลิเคชัน TrueID)

ระยะเวลา	ยอดการชำระต่อเดือน
ตั้งแต่ 1 วัน ไม่เกิน 1 ปี	250 บาท

บัตร True Green หรือ บัตรสีเขียว

สำหรับบัตรสีเขียว หากเป็นลูกค้าไม่เกิน 1 ปี จะต้องมียอดการใช้จ่าย 250-999 บาท ต่อเดือน ส่วนลูกค้าที่ใช้บริการมามากกว่า 1-5 ปี จะต้องมียอดการใช้จ่าย 250-599 บาทต่อเดือน พูดง่าย ๆ ก็คือถ้าคุณเป็นลูกมาไม่นานก็ต้องจ่ายเยอะหน่อย จึงจะอยู่ในเกณฑ์บัตรสีเขียวนี้

เงื่อนไขการขอรับสินเชื่อ
รับวงเงินสูงสุด      : 2 เท่าของค่าใช้จ่าย
สิทธิประโยชน์อื่น ๆ : บัตรสีเขียวจะได้รับในทุก ๆ สิทธิประโยชน์ของบัตรสีขาว แต่จะมีความพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาบ้าง เช่น สิทธิพิเศษรายเดือน หรือ สิทธิในการใช้บริการ 1 Day Pass ใน Co-Working Space ของ True Digital Park ได้หนึ่งวันเต็ม

ระยะเวลา	ยอดการชำระต่อเดือน
ตั้งแต่ 1 วัน ไม่เกิน 1 ปี	250 – 999 บาท
มากกว่า 1-5 ปี	250 – 599 บาท

บัตร True Blue หรือ บัตรสีฟ้า

สำหรับบัตรสีฟ้านั้น (อย่าสับสนกับ Blue Card ของปตท.) จะสำหรับลูกค้าที่อยู่นานและจ่ายหนักกว่าสองประเภทแรก และมีขั้นบันไดที่ละเอียดกว่ำดังตารางข้างล่าง ลองดูว่าคุณจะเข้าเกณฑ์ของบัตรสีฟ้าหรือไม่

เงื่อนไขการขอรับสินเชื่อ
รับวงเงินสูงสุด      : 3 เท่าของค่าใช้จ่าย
สิทธิประโยชน์อื่น ๆ : ได้สิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่เพิ่มเติมจากบัตรสองประเภทแรก เช่น ส่วนลดเสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำ อย่าง Lee, Wrangler เป็นต้น

ระยะเวลา	ยอดการชำระต่อเดือน
ตั้งแต่ 1 วัน ไม่เกิน 1 ปี	1,000 – 1,999 บาท
มากกว่า 1-2 ปี	600 – 1,499 บาท
มากกว่า 2-5 ปี	600 – 999 บาท
มากกว่า 5-10 ปี	250 – 999 บาท

จะเห็นว่าหากคุณจ่ายค่าบริการเดือนละเล็กละน้อยเริ่มต้นแค่ 250 บาทต่อเดือน แต่อยู่เป็นลูกค้าทรูมายาวนานก็สามารถเข้าเกณฑ์นี้ได้

บัตร True Red หรือ บัตรสีแดง

บัตรทรูเร้ด (กรุณาอย่าอ่านออกสำเนียงไทย) ทางทรูฯ ได้เปรียบว่าสีแดงนั้นคือสีแห่งอาทิตย์อัสดง เพื่อนำไปสู่ประสบการณ์ความสุขสุดพิเศษ ซึ่งก็เหมาะกับลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มบัตรนี้ เพราะบัตรทรูเรดมีไว้สำหรับลูกค้าที่ “จ่ายหนัก” ใช้ “ใช้นาน” ของจริง ลองคำนวณแบบ Maximum เลยก็คือ 10 ปี x 1,499 บาท x 12 เดือน นั่นแปลว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาลูกค้ากลุ่มนี้สร้างรายได้ให้กับทรูทั้งหมด 179,880 บาท ก็ต้องมารอดูกันว่าจะได้สิทธิพิเศษอะไร และได้วงเงินเท่าไหร่

เงื่อนไขการขอรับสินเชื่อ
รับวงเงินสูงสุด      : 4 เท่าของค่าใช้จ่าย
สิทธิประโยชน์อื่น ๆ : มีสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ส่วนลด 15% สำหรับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิต

ระยะเวลา	ยอดการชำระต่อเดือน
ไม่เกิน 1 ปี	2,000 – 2,999 บาท
มากกว่า 1 ปี จนถึง 2 ปี	1,500 – 1,999 บาท
มากกว่า 2-10 ปีขึ้นไป	1,000 – 1,499 บาท

บัตร True Black หรือ บัตรสีดำ

บัตรชนิดนี้ถือว่าเป็นที่สุดของการจัดประเภทลูกค้า ที่ทางทรูฯ นั้นเปรียบเทียบกับ “จักรวาลอันไร้ขอบเขต สู่การปรนนิบัติแบบพิเศษไม่สิ้นสุด” ใครที่เพิ่งเข้ามาเป็นลูกค้าทรูได้ไม่นาน แต่คิดว่าแน่ และอยากอยู่ในกลุ่มประเภทนี้ จะต้องมียอดค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 3,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป และมีลูกค้าบางคนที่อาจทำรายได้ให้กับทรูฯ ตลอดที่ผ่านมาได้ถึง “359,880 บาท” เรามาดูตารางกันดีกว่าว่าจะการจะเข้าเกณฑ์ลูกค้าประเภทนี้ได้จะต้องมียอดใช้จ่ายอย่างไรบ้าง

เงื่อนไขการขอรับสินเชื่อ
รับวงเงินสูงสุด      : 4 เท่าของค่าใช้จ่าย
สิทธิประโยชน์อื่น ๆ : ผู้ถือบัตร True Black จะได้รับสิทธิพิเศษสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น True Black Call Center ผู้ช่วยส่วนตัวที่จะคอยแก้ปัญหาให้คุณ 24 ชั่วโมง, สิทธิ์ในการใช้บริการ Co-Working Space แบบ First Class, ส่วนลดตั๋วหนังทั้งในเครือเมเจอร์และ SF, ที่จอดรถสำรองพิเศษ, เล่นฟิตเนสฟรี เป็นต้น

ระยะเวลา	ยอดการชำระต่อเดือน
ไม่เกิน 5 ปี	3,000 บาทขึ้นไป
5-10 ปี	2,000 – 2,999 บาท
มากกว่า 10 ปี	1,500 – 1,999 บาท

อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่าเราสามารถตรวจสอบบัตรได้ผ่านทางแอปพลิเคชัน TrueID เพราะว่าระบบของทางทรูฯ จะจัดเก็บ Data ทุกอย่างของลูกค้าในทุก ๆ การใช้จ่าย และนำมาประมวลผลให้ว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ขอสินเชื่อ Micro Credit?

ภาพประกอบจาก Facebook True Money Wallet

1. สัญชาติไทย อายุ 20-60 ปี
2. เป็นลูกค้า TrueMove H (บุคคลธรรมดา แบบรายเดือน)
3. มีอายุการใช้งานมากกว่า 180 วัน
4. ต้องไม่มีค่าบริการคงค้าง (ใครมีให้รีบเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อน)
5. ไม่ผิดนัดชำระ มีประวัติการชำระค่าบริการอย่างสม่ำเสมอ

วิธีการสมัครเพื่อขอสินเชื่อ Micro Money 

ภาพประกอบจาก privilege.trueid.net

1. นำบัตรประชาชน (ตัวจริง) ไปยื่นสมัครที่ True Shop ทุกสาขาทั่วประเทศ
2. ทำการยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ทรูฯ ที่สาขานั้น ๆ
3. กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
4. อ่านรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถี่ถ้วนก่อนจะทำการยินยอมเงื่อนไขต่าง ๆ ในแอปพลิเคชัน
5. รอ SMS อนุมัติสินเชื่อ
6. ได้รับวงเงินสินเชื่อ
7. สามารถเบิกเงินสดออกมาใช้จากวงเงิน ผ่านแอปพลิเคชันทรูมันนี่วอลเล็ตที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์ของคุณ

หมายเหตุ 

** ทรูมันนี่วอลเล็ต (True Money Wallet) เป็นแอปพลิเคชันกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการจับจ่ายใช้สอยผ่านโทรศัพท์มือถือ กับร้านเซเว่นอิเลฟเว่น และร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ True Money Wallet โดยที่เราสามารถโอนเงินในทรูมันนี่วอลเล็ตเข้าธนาคารเพื่อกดเป็นเงินสดมาใช้ได้จริง แต่จะเสียค่าธรรมเนียมในการโอนครั้งละ 15 บาท

เงื่อนไขเพิ่มเติมของบริการ Micro Credit มีดังต่อไปนี้

• สินเชื่อนี้สามารถให้ได้เฉพาะลูกค้า 1 คน ต่อ 1 สินเชื่อเท่านั้น
• บริการชนิดนี้เป็นบริการที่ทางบริษัท แอสแซนด์ นาโน จำกัด ทำให้กับทางทรู สามารถโทรติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 1240 กด 3
• รูปแบบและระยะเวลาในการแบ่งจ่ายจะขึ้นอยู่กับทางบริษัท แอสแซนด์ นาโน จำกัด แต่จริง ๆ แล้วระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดจะไม่เกิน 3 เดือนอยู่แล้ว เรื่องระยะเวลาจึงไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรมาก ขอให้มีเงินพอจ่ายก็พอ
• การคิดดอกเบี้ยจะคิดแบบลดต้นลดดอกตามยอดเงินเบิกที่ใช้จริง

สินเชื่อทรูมันนี่ (Micro Credit) เหมาะกับใคร

ภาพประกอบจาก Facebook Truemoney Wallet

ลูกค้าประจำของ True Move H

หลายคนอาจจะมองว่าบริการนี้ใช้ได้เฉพาะกลุ่มลูกค้าของ True Move H อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ แต่ที่ต้องย้ำแบบนี้ก็เพราะว่าผลิตภัณฑ์และแอปพลิเคชันในเครือของ True มีเยอะมาก ๆ เช่น แอปพลิเคชันทรูมันนี่วอลเล็ต, แอปพลิเคชันทรูไอดี, ทรูพอยท์ และอื่น ๆ อีกมากมาย

ดังนั้นแล้วหากไม่ได้เป็นลูกค้าประจำของทรูและเพิ่งกระโดดเข้ามาใช้บริการอาจขาดความเข้าใจและสับสนในบริการต่าง ๆ ได้ และมากไปกว่านั้น ผู้ที่เพิ่งเข้ามาเป็นลูกค้าทรูฯ ก็ไม่ได้สิทธิ์มากเท่ากับผู้ที่เป็นลูกค้ามาอย่างยาวนานอยู่แล้ว หากใครเป็นลูกค้าของค่ายอื่นให้ลองมองหาเงินกู้จากธนาคารอาจจะคุ้มกว่า (แต่จากข้อมูล ณ ตอนนี้ยังไม่พบว่าเครือข่าย AIS หรือ DTAC มีบริการเงินก้อนให้ยืมโดยตรง)

หากใครเป็นลูกค้าของ True Move H อยู่แล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วยเพราะสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครบครันรอบด้านจริง ๆ

ผู้ที่ไม่ได้ต้องการเงินก้อนใหญ่

เพราะวงเงินสูงสุดที่สินเชื่อทรูมันนี่ Micro Credit ให้ได้คือ 10,000 บาท ต่อให้จะใช้จ่ายมากมายแค่ไหนก็กู้เงินได้มากสุดเท่านี้ อีกทั้งยัง Base On รายจ่าย

แต่ถ้าหากขอสินเชื่อจากธนาคารต่าง ๆ จะ Base On รายได้หรือเงินเดือนของคุณเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าชีวิตของคนปกติรายได้จะต้องมากกว่ารายจ่ายอยู่แล้ว ซึ่งโดยเฉลี่ยการขอสินเชื่อจากธนาคารต่าง ๆ จะได้วงเงินสูงสุด 100,000-1,000,000 บาท

ผู้ที่สะดวกผ่อนจ่ายในระยะเวลาสั้น ๆ

สินเชื่อจากทรูมันนี่มีระยะเวลาผ่อนจ่ายแค่สามเดือนเท่านั้น ถือเป็นการยืมเงินแบบระยะสั้นมาก ๆ จริง ๆ หากเปรียบกับธนาคารแล้วจะสามารถผ่อนได้ระยะยาว 2-3 ปี ดังนั้นใครที่ชอบเคลียร์หนี้เร็ว ๆ Micro Credit ของทรูฯ ก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่าการกู้ยืมจากธนาคารอย่างแน่นอน

สุดท้ายนี้หากใครต้องการจะขอกู้ยืมเงินจริง ๆ  ก็ขอให้แน่ใจว่าในอนาคตจะสามารถหารายได้มาชำระหนี้ได้ และพยายามอย่าสร้างหนี้หลาย ๆ ที่เอาไว้ เพราะจะทำให้เดือดร้อยภายหลังได้ ขอให้บริหารจัดการเงินในกระเป๋าให้ดี เมื่อรู้ตัวว่าจ่ายไม่ไหว ควรเลิกนิสัยฟุ้งเฟ้อ เก็บออมเงินอย่างสม่ำเสมอ